Internal Link
สำหรับการทำ SEO แล้ว การทำ Internal Link เพื่อเชื่อมเนื้อหาภายในเว็บไซต์ถือว่าเป็นสิ่งที่มีความสำคัญมาก และไม่ว่าจะมีโครงสร้างเว็บไซต์แบบไหนก็ตาม ล้วนแล้วแต่มีการทำ Internal Link ภายในเว็บไซต์ด้วยกันทั้งสิ้น
ในบทความนี้พวกเราชาวมิงจะมาบอกเล่าข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทำ Internal Link ให้ผู้อ่านได้รู้จักกันมากขึ้น พร้อมบอกเทคนิคการทำ Internal Link แบบละเอียดยิบ ๆ รับรองว่าเป็นประโยชน์สำหรับคนทำ SEO อย่างแน่นอน
Internal Link คืออะไร
พูดแบบง่าย ๆ Internal Link คือ การทำ Link เชื่อมโยงภายในเว็บไซต์
ยกตัวอย่างเช่น บทความที่มีหัวข้อใกล้เคียงกัน จึง Internal Link เชื่อมหน้า A – B ด้วย Text , Image หรือปุ่มอะไรก็แล้วแต่ ซึ่งจะแตกต่างกับการทำ External Link ที่มีการเชื่อมโยงไปหาเว็บไซต์ภายนอกหรือโดเมนอื่น ๆ&
การทำ Internal Link มีส่วนช่วยให้คนอยู่ในเว็บไซต์ของเราได้นานขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญต่อการจัดอันดับเว็บไซต์ของ Google นั่นเอง
ตัวอย่าง Code สำหรับการทำ Internal Link
<a href=”http://www.yourdomain.com/” title=”Keyword”>Keyword</a>
ทำไมการทำ Internal Link ถึงมีความสำคัญ
- การทำ Internal Link มีประโยชน์กับ User และช่วยให้คนอยู่ในเว็บไซต์ได้นานขึ้น
- การทำ Internal Link เปรียบเสมือนการทำ Navigation Menu ให้กับผู้ใช้งาน
- การทำ Internal Link เป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อการจัดอันดับเว็บไซต์บน Google SERP
- Internal Link ช่วยให้ Google เข้าใจว่าเนื้อหาในหน้านั้น ๆ เกี่ยวข้องกับอะไร
- การทำ Internal Link ส่งผลต่อการจัดเก็บ Index
- Internal Link ช่วยให้เห็นลำดับชั้นข้อมูลของเว็บไซต์
1.ทำ Link ไปยัง Page ที่มีความสำคัญ
การทำ Internal Link ไปยังหน้าเว็บเพจอื่น ๆ เป็นการช่วยสร้างความหน้าเชื่อถือให้กับเว็บเพจหน้านั้น ๆ ว่าเป็นเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกัน นักทำ SEO หลายคนก็ใช้วิธีนี้เช่นกันในการดันอันดับเว็บไซต์ให้กับ Keyword ต่าง ๆ
คลิกอ่านเพิ่มเติม : การทำ SEO คืออะไร ?
2.ไม่ทำ Anchor Text ซ้ำกัน
สมมติว่าคุณต้องการทำ Internal Link ให้กับบทความ 2 เรื่อง คือ Grain-Free Chocolate Chip Cookies และ Low-Carb Chocolate Chip Cookies.
สิ่งที่ไม่ควรทำ คือ ไม่ทำ Anchor Text แบบซ้ำกันที่คำว่า “Chocolate Chip Cookies”
เพราะเวลาที่ Google Bot เข้ามาเก็บข้อมูล Google จะเข้าใจว่าอ๋อออออ ไอลิ้งก์ 2 ตัวนี้มันเป็นเนื้อหาหัวข้อเดียวกันนี่เอง
แบบนี้จะส่งผลเสียต่อการทำ SEO อย่างแน่นอน
ทางที่ดีควรทำ Anchor Text แบบที่แตกต่างกัน ห้ามซ้ำกันเด็ดขาด สามารถดูตัวอย่างได้ที่ภาพด้านล่าง
ที่มาของภาพ : backlinko.com
3.ปรับ แก้ไข Internal Link ผ่าน Google Search Console
Google Search Console นับว่าเป็นเครื่องมือที่สำคัญมากสำหรับการทำ SEO เพราะเป็นเครื่องมือที่เอาไว้ใช้ตรวจเช็คประสิทธิภาพของเว็บไซต์ ว่าเหมาะกับการแสดงผลแบบ Mobile Fridendly หรือไม่ คนที่ค้นหาผ่าน Google แล้วมาเจอเว็บไซต์ของเรา เขาเข้ามาด้วย Keyword อะไร สามารถทำความรู้จัก Google Search Console ได้ที่บทความนี้ : Google Search Console คืออะไร
การปรับและแก้ไข Internal Link ผ่านการใช้เครื่องมือที่ชื่อว่า Google Search Console ก็มีวิธีที่ง่าย ๆ เพราะตัว Google Search Console มี Feature การใช้งานที่ชื่อว่า “Links”
เราสามารถใช้ Feature นี้เพื่อตรวจเช็คดูว่าเว็บไซต์ของเรามีโครงสร้าง Internal Link เป็นอย่างไร เว็บเพจนั้น ๆ มี Internal Link มาก-น้อยแค่ไหน
จากประสบการณ์แล้วคนทำ SEO อย่างเรา ๆ ควรปรับ แก้ไข Internal Link โดยเช็คผ่าน Google Search Console ทุก ๆ 3 เดือน (หรือจะทำมากกว่านั้นก็ได้ ไม่มีใครว่า) เพราะจะทำให้เราเห็นภาพรวมในเว็บไซต์ว่าเว็บเพจหน้าไหนมีการทำ Internal Link ที่น้อยนั่นเอง พอเรารู้แล้วก็จะได้นำไปปรับได้อย่างรวดเร็ว
ที่มาของภาพ : backlinko.com
4.อย่าลืมวาง Internal Link ด้านบนของเว็บเพจ
การทำ Internal Link ไว้ด้านบนเนื้อหาของบทความ ถือว่าเป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ไม่ควรมองข้าม เพราะเมื่อ User เข้ามาเจอ Internal Link ที่เราวางไว้ ก็จะเพิ่มโอกาสที่ User จะกดคลิกได้
ซึ่งจะส่งผลดีต่อการทำ SEO เช่นกัน เพราะการทำคนกดคลิก Internal Link นั่นหมายความว่า User จะอยู่ในเว็บไซต์ของเรานานขึ้น ! ทาง Google ก็จะมองว่าเว็บไซต์เราตอบโจทย์ความต้องของ User แถมยังช่วยลด Bounce Rate และช่วยเพิ่มระยะเวลาการอยู่ในเว็บไซต์ได้นานขึ้นอีกด้วย
ฉะนั้นแล้วไม่เป็นอะไรเลยที่คุณจะวาง Internal Link ไว้บริเวณด้านบนของบทความสัก 1-2 Links เราชาวมิงคอนเฟิร์ม !
ที่มาของภาพ : backlinko.com
5.ควรทำ Internal Link เป็นแบบ Dofollow Links
Dofollow Link คือ การทำ Link แบบที่ให้ Link ไปเต็ม ๆ ไม่มีกั๊ก ซึ่งจะแตกต่างจากการทำแบบ Nofollow Link
โดยส่วนตัวแล้วพวกเราชาวมิงรู้สึกว่า การทำ Internal Link ควรทำเป็นแบบ Dofollow Link เพราะจะช่วยส่ง Pagerank ไปทั่วเว็บไซต์ของเราได้มากกว่า
6.ใช้ Internal Link เป็นตัวช่วยในการทำให้เว็บเพจติด Index
การที่เว็บเพจของเราจะแสดงผลในการค้นหาของ Google ได้ เว็บเพจหน้านั้น ๆ จำเป็นจะต้องติด Index เสียก่อน
ซึ่งการทำ Internal Link จะช่วยให้เว็บเพจนั้น ๆ ติด Index ได้ เพราะการทำ Internal Link จะช่วยให้ Google หาเว็บเพจต่าง ๆ ในเว็บไซต์เราได้ง่ายขึ้น
ที่มาของภาพ : backlinko.com
7.เพิ่ม Internal Link ในเว็บเพจเก่าที่เคย Publish ไปแล้ว
อีกหนึ่งวิธีที่ช่วยให้เราทำ Internal Link ได้ดียิ่งขึ้น คือ การกลับไปเพิ่ม Internal Link ที่บทความเก่า ๆ นั่นเองค่ะ แต่ Internal Link ที่ทำใส่เพิ่มไป ควรเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาหลักด้วยล่ะ
การทำ Internal Link มีทั้งหมดกี่แบบ
พวกเราชาวมิงขอแบ่งการทำ Internal Link ออกเป็น 5 แบบด้วยกัน คือ
1.Anchor Text (Text-link, In-Content Link)
ไม่ว่าจะเป็นการทำ Internal Link แบบ Anchor Text, Text Link, In-Content Link โดยส่วนตัวพวกเราชาวมิงมองว่ามันคือตัวเดียวกันค่ะ เพราะเป็นการทำ Internal Link แบบเป็นข้อความ
และยิ่งถ้าทำ External Link แบบ Anchor Text จากเว็บไซต์อื่นมาที่เว็บไซต์ของเรา ก็จะได้ค่าพลัง SEO ที่สูงกว่าการทำ Link รูปแบบอื่น ๆ ด้วย
ชื่อก็ตามตัวเลยค่ะ Footer Link เป็นส่วนท้ายของเนื้อหาเว็บไซต์ ที่สามารถกดคลิกได้ไปยังหน้าต่าง ๆ
Navigation Link หรือ Menu Link คืออันเดียวกัน พบมากบริเวณส่วนที่เป็น Header ของเว็บไซต์
4.URL Link
การทำ Internal Link แบบ URL Link เป็นการวางลิ้งก์แบบที่ไม่มีการปรับแต่งใด ๆ เรียกได้ว่าเรา Copy ลิ้งก์มาแบบไหน ก็วางลิ้งก์แบบนั้นไปเลย เช่น www.mingketar.com
5.Image Link
การทำ Internal Link แบบ Image เป็นการเชื่อมโยงลิ้งก์ด้วยภาพ อารมณ์ประมาณว่ากดคลิกที่ภาพก็จะเด้งแท็บไปเว็บเพจอื่น ๆ
Internal Link ต่างกับ External Link อย่างไรบ้าง
พูดแบบสั้น ๆ ง่าย ๆ
Internal Link คือ การเชื่อมโยงลิ้งก์ภายในเว็บไซต์
ส่วน External Link คือ การเชื่อมลิ้งก์ไปยังนอกเว็บไซต์
เช่น สามารถคลิกดูเพจแมวมิง แหล่งรวมแมวโรคจิตแห่งออฟฟิศมิงเก็ตตาร์ได้ที่นี่ : แมวมิง MeowMing
Internal Link : เชื่อมโยงลิงก์ภายใน
External Link : เชื่อมโยงลิงก์ภายนอก
ทำ Internal Link จำนวนเท่าใด ถึงเรียกว่ามากเกินไป
จากบทความของ Moz บอกว่า จริง ๆ แล้วไม่มีคำตอบที่ตายตัว ว่ามีจำนวน Internal Link เท่าไหร่ถึงจะเรียกว่าเยอะมากเกินไป
แต่ทาง Google เคยบอกว่า สามารถ Crawl Link ได้ประมาณ 100 Links/Page
แต่ในทางปฏิบัติแล้ว.. การมี Internal Link มากเกินไปจะส่งผลไม่ดีต่อประสบการณ์การใช้งานของผู้ใช้ (User Experience) เพราะผู้ใช้จะรู้สึกว่าทำ Link เยอะเกินความจำเป็น จนบางครั้งอาจจะเหมือนกับการ Spam Link ได้
ส่วนตัวแล้วพวกเราชาวมิงคิดว่า ควรทำ Internal Link ในแบบที่พอดี ไม่มากเกินไป ไม่น้อยเกินไป ทำ Internal Link ให้สอดคล้องกับเนื้อหาของภายในเว็บไซต์นั้น ๆ แบบนี้จะเป็นประโยชน์ต่อการทำ SEO มากกว่า
วิธีตรวจเช็คว่า Internal Link มีคุณภาพหรือไม่
อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วในข้างต้น ว่าเราสามารถตรวจเช็คได้ว่า Internal Link ที่เราทำนั้นมีคุณภาพหรือไม่ผ่านการใช้เครื่องมือฟรีที่มีชื่อว่า “Google Search Console” โดยมีขั้นตอนดังนี้
1.คลิกเข้าไปที่ : https://search.google.com/search-console/about
2.สังเกตแถบด้านซ้ายมือ กดคำว่า “Links”
ซึ่ง Google Search Console ก็จะแสดงข้อมูลเกี่ยวกับ Links ทั้งหมดให้เรา ซึ่งเราก็สามารถเข้าไปดูได้ที่ “Total internal links” ว่าแต่ละ URL มีการทำ Internal ไปแล้วกี่ link และมี URL ไหนบ้างที่ link มาหา
มาถึงตอนนี้เราชาวมิงก็ขอแนะนำว่า การทำ Internal Link ไม่ใช่สักแต่ว่าทำ แต่เนื้อหาที่ทำต้องเกี่ยวข้องและใกล้เคียงกันด้วย ไม่ใช่ว่าเอา link อะไรมาแปะ ๆ ไว้ก็ได้ การทำ Internal Link ถือว่าเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้เว็บไซต์ของเราติดอันดับของ Google ได้ ถ้าต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริการรับทำ SEO หรือ ทำเว็บไซต์ WordPress เพื่อให้รองรับการทำ SEO ก็สามารถปรึกษาบริษัทรับทำ SEO อย่างพวกเราชาวมิงได้แบบฟรี ๆ รับรองว่าตอบเองทุกเคส ไม่ผ่านเซลแน่นอน
ส่วนถ้าใครมีเทคนิคเกี่ยวกับการทำ Internal Link ก็สามารถแลกเปลี่ยนเพิ่มเติมกันได้ผ่าน Comment ด้านล่าง แนะนำว่าควรพูดคุยแลกเปลี่ยนกันด้วยคำสุภาพนะจ้ะ เพราะพวกเราชาวมิงใจบางกันม๊ากกกกก หวังว่าบทความเกี่ยวกับการทำ Internal Link ที่เรานำมาบอกกล่าวจะเป็นประโยชน์กับผู้อ่านทุกคนนะคะ ขอบคุณที่มั่ก ๆ โลยที่อ่านกันมาถึงตรงนี้
