SERP คืออะไร
อธิบายแบบง่าย ๆ SERP คือ เครื่องมือที่เอาไว้แสดงผลการค้นหาตามที่ User ต้องการ โดย User จะค้นหาข้อมูลผ่าน SERP ด้วยการพิมพ์ Keyword ต่าง ๆ ลงไป SERP จะมีการจัดอันดับ (Ranking) เนื้อหาที่คิดว่าตรงกับความต้องการของ User เอาไว้ ซึ่ง SERP Features ที่แสดงผลจะมีหลายรูปแบบมาก ๆ แต่จะมี SERP Features แบบไหนบ้าง เกี่ยวข้องกับการทำ SEO อย่างไร ในบทความนี้พวกเราชาวมิง Mingketar จะมาสรุปข้อมูลให้ได้อ่านกันค่ะ
SERP ย่อมาจากอะไร
SERP ย่อมาจากคำว่า Search Engine Results Page
การแสดงผลของ SERP มีทั้งหมดกี่แบบ
1.Paid SERP Listing
Paid SERP คือ การแสดงผลแบบโฆษณา (Ads) หากเป็น Search Engine ชื่อดังอย่าง Google เราก็จะลงโฆษณาผ่าน Google Ads มีการแสดงผลบน SERP ด้วยกันรวม 7 ตำแหน่ง คือ ด้านบน 4 และ ด้านล่าง 3
โดยการแสดงเนื้อหาแบบ Paid SERP Listing จะมีคำว่า “โฆษณา” “Ads” หรือ “Sponsored” ระบุเอาไว้เล็ก ๆ อยู่ด้านหน้า
2.Organic SERP Listing
Organic SERP คือ การแสดงผลแบบธรรมชาติ ไม่ได้ลงโฆษณา ซึ่งถือว่าเป็นพื้นที่สำคัญสำหรับผู้ประกอบการและคนทำ SEO อย่างมาก ๆ เพราะไม่ว่าใคร ๆ ก็อยากให้ธุรกิจของตัวเองอยู่ในหน้าแรก Google ยิ่งอยู่อันดับบนสุดยิ่งดี เพราะนั่นหมายความว่า User จะมีโอกาสเห็นธุรกิจคุณก่อนใคร !
ซึ่งการแสดงผลแบบ Organic SERP Listing จะมีการปรับเปลี่ยนอยู่ตลอดเวลา ขึ้นอยู่กับว่าเว็บไซต์ของคุณที่ทำ SEO นั้นเหมาะกับความต้องการของ User และ Algorithm ของ Google หรือไม่ ส่วนนี้แหละค่ะที่ทำให้กับการทำ SEO นั้นมีความสำคัญมาก ๆ
คลิกอ่านเพิ่มเติม : สรุปมาแล้ว SEO คืออะไร มีประโยชน์ต่อธุรกิจอย่างไร พร้อมสิ่งที่ต้อง Focus
ภาพจาก : backlinko.com
3.SERP Features
SERP Features คือ การแสดงผลการค้นหาแบบต่าง ๆ ที่ไม่ได้แสดงแค่ชื่อเว็บไซต์ Title URL หรือ Description ของหน้าเว็บนั้น ๆ แต่จะมีรูปแบบการแสดงผลที่เยอะมาก ๆ เช่น รูปภาพ วิดีโอ คำถามที่พบบ่อย ฯลฯ
ภาพจาก : backlinko.com
การใช้ SERP สามารถช่วยเหลืออะไรเราได้บ้าง
SERP มีความสำคัญมาก ๆ สำหรับการค้นหาข้อมูลต่าง ๆ ช่วยแก้ปัญหา และตอบคำถามในสิ่งที่เราต้องการและอยากรู้ได้แทบจะทุกเรื่อง (ลองนึกภาพดูก็ได้ค่ะว่ามีอะไรบ้างที่ Google ตอบเราไม่ได้)
หลังจากที่เราพิมพ์คำค้นหาด้วย Keyword ที่เราต้องการไปแล้ว SERP ก็จะแสดงผลการค้นหาแบบต่าง ๆ ที่คิดว่าตอบโจทย์กับความต้องการของเรามากที่สุดมาแสดง
คลิกอ่านเพิ่มเติม : Long Tail Keyword คืออะไร
SERP ประกอบไปด้วยอะไรบ้าง
1. URL หน้าเว็บเพจนั้น ๆ
2. Title หรือ ชื่อของหน้าเว็บเพจ เป็นการสื่อว่าหน้าเว็บเพจนี้เกี่ยวข้องกับอะไร
3. Description เป็นรายละเอียดเพิ่มเติมของหน้าเว็บเพจนั้น ๆ จะอยู่ด้านล่างของ Title
4. จำนวนเว็บไซต์ทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับผลการค้นหา
5. สัญลักษณ์สำหรับแสดงว่าเป็นเว็บเพจที่ลงโฆษณา โดยจะมีคำว่า โฆษณา Ads หรือ Sponsored ระบุเอาไว้
6. ช่อง Search สำหรับค้นหา โดยการพิมพ์ Keyword ที่ต้องการลงไป
7. การแสดงคำค้นหาที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม
8. รูปแบบการค้นหาอื่น ๆ เพิ่มเติม เช่น ภาพ วิดีโอ Maps ฯลฯ
SERP เกี่ยวกับการทำ SEO อย่างไร
จำที่เราเกริ่นในตอนแรกได้มั้ยคะ ว่า SERP จะมีพื้นที่การแสดงผลแบบ Organic รวม 10 ตำแหน่ง ซึ่งตำแหน่งว่างตรงนี่แหละค่ะที่เป็นพื้นที่ฟรี ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร ทำธุรกิจอะไร เปิดเว็บไซต์มาก่อนเป็น 10 ปี หรือจะเพิ่มเปิดมาได้แค่ 1 เดือน ก็สามารถเข้าไปอยู่ใน 10 ตำแหน่งนี้ได้เช่นกัน ขอเพียงแค่เนื้อหาที่คุณทำลงเว็บไซต์ตอบโจทย์ User และเว็บไซต์มีโครงสร้างตรงตามแนวทางที่ Google ต้องการ
ด้วยความที่เป็นตำแหน่งฟรี ไม่ว่าใคร ๆ ก็อยากจะไปยืนอยู่ตรงนั้นค่ะ ทำให้การทำ SEO เข้ามามีส่วนสำคัญ ยิ่งบางธุรกิจแข่งขันกันโหดมาก ๆ หากเว็บไซต์ไหนทำ SEO ตรงตามแนวทางที่ Google กำหนด และตรงกับความต้องการของ User ก็ขอบอกเลยค่ะว่าโอกาสที่ธุรกิจของคุณจะไปอยู่ใน 10 ตำแหน่งแรกของ Google จะมีความเป็นได้สูง
ประโยชน์ของ SERP ที่ช่วยในการวิเคราะห์ SEO มีอะไรบ้าง
พวกเราชาวมิงขอแบ่งการวิเคราะห์ SEO ผ่านการใช้ SERP ออกเป็น 2 ส่วน คือ การนำ SERP มาใช้เพื่อวิเคราะห์เว็บไซต์ของเรา กับ การนำ SERP ไปใช้วิเคราะห์คู่แข่ง
1.นำ SERP มาใช้วิเคราะห์เว็บไซต์เรา
- ดู SERP เป็นแนวทางให้กับการตั้งชื่อ Title และ Description เพื่อให้น่าสนใจ ดึงดูด และน่ากดคลิก
- ใช้ SERP เช็คดู Search Intent ความต้องการของ User
- ใช้ SERP ดูความยาวของเนื้อหาที่เราจะทำ
- เช็คโครงสร้างเว็บไซต์ผ่าน SERP
- หาคำค้นหาที่เกี่ยวข้อง (Relate Keyword) ผ่าน SERP
2.นำ SERP มาใช้วิเคราะห์เว็บคู่แข่ง
- ใช้ SERP ดูเว็บไซต์คู่แข่ง ว่ามีโครงสร้างเว็บไซต์เป็นแบบไหน
- ใช้ SERP เช็คดูความยาวของเนื้อหา
- ใช้ SERP วิเคราะห์การทำ SEO ของคู่แข่ง เช่น เช็คการตั้งชื่อ Title + Description
- เช็ค Focus Keyword เช็ค Heading ฯลฯ
แนะนำ 3 เครื่องมือตัวช่วยวิเคราะห์ SERP แบบฟรี สำหรับคนทำ SEO
เครื่องมือฟรี 3 ตัวที่พวกเราชาวมิงคัดสรรมา คุณสามารถดาวน์โหลดได้มาติดเป็นส่วนขยาย Chrome Extension ได้แบบฟรี ๆ แถมแต่ละเครื่องมือยังใช้งานง่ายอีกด้วย เหมาะกับการวิเคราะห์ On Page ทั้งเว็บไซต์ตัวเอง และเว็บไซต์คู่แข่ง
1.SEO Quake
SEO Quake มีวิธีติดตั้งง่าย ๆ เพราะเป็นส่วนขยาย Chrome Extension เอาไว้ใช้ส่องแต่ละ URL บน SERP ว่ามีโครงสร้าง On Page เป็นแบบไหน
2.Ahrefs SEO Toolbar
Ahrefs SEO Toolbar เป็นส่วนขยาย Chrome Extension เช่นกัน สามารถใช้เช็ค On Page รวมถึงเช็คดูได้ว่า URL นี้ถูกบล็อก Robots.txt หรือไม่
3.SEO Meta in 1 Click
SEO Meta in 1 Click เป็นเครื่องมือสำหรับใช้วิเคราะห์ On Page รวมถึงตรวจเช็ค Sitemap เว็บไซต์ได้อย่างรวดเร็ว เพียงแค่ 1 คลิกเท่านั้น
ข้อมูลที่แสดงผลผ่าน SERP เรียกได้ว่ามีความสำคัญมาก ๆ กับธุรกิจที่ต้องการเติบโตและเพิ่มยอดขายผ่านช่องทาง Search Engine ทำให้การทำ SEO เข้ามามีส่วนสำคัญ เพราะต้องปรับแต่งเว็บไซต์ให้ตอบโจทย์ความต้องการทั้ง User และตรงตามแนวทาง Google เพื่อให้เว็บไซต์ธุรกิจของเราเข้าไปอยู่ใน 10 ตำแหน่งแรก !
หากเราช่วงชิงพื้นที่ทองคำบน SERP ได้ จะทำให้ธุรกิจของคุณประหยัดงบค่าลงโฆษณาไปได้หลายเท่าตัว ยิ่งทำ SEO ติดอันดับสูงเท่าไหร่ ธุรกิจของคุณจะยิ่งมีคนรู้จักมากขึ้น
ถ้าคุณอ่านมาถึงตรงนี้แล้วรู้สึกว่าอยากให้ธุรกิจของคุณเป็น 1 ใน 10 ของตำแหน่งทองคำ คุณสามารถปรึกษาพวกเราชาวมิง Digital Marketing Agency ได้แบบฟรี ๆ โดยไม่เสียเงินสักบาท ลองมาพูดคุยถึงแนวทางการรับทำ SEO กับเราก่อนได้ค่ะ หากแนวทางตรงกัน คลิกกัน ก็ค่อยดีลงานกับบริษัทรับทำ SEO อย่างพวกเราค่ะ
References