หาคนทำเว็บไซต์
มีเจ้าของธุรกิจหลายคนที่กำลังมองหาคนทำเว็บไซต์ เพื่อที่จะเข้ามาช่วยสร้างร้านค้าบนโลกออนไลน์ของคุณให้ดูมีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น พร้อมที่จะแสดงสินค้าหรือบริการให้ว่าที่ลูกค้าของคุณได้เห็น
แต่การหาคนทำเว็บไซต์ก็มีข้อควรระวังเช่นกัน เพราะต้องหาคนทำเว็บไซต์หรือหาคนเขียนเว็บไซต์ที่มีประสบการณ์และมีความเชี่ยวชาญเป็นอย่างดี ในบทความนี้มิงเก็ตตาร์จะมาแนะนำให้ผู้ประกอบการหรือคนที่กำลังหาคนทำเว็บไซต์ได้อ่านกัน ว่าต้องพิจารณาอะไรบ้างเมื่อต้องหาคนมาช่วยทำเว็บไซต์
การหาคนทำเว็บไซต์ ต้องพิจารณาอะไรบ้าง
1.เว็บไซต์เป็นระบบ WordPress หรือไม่
การทำเว็บไซต์มีทั้งการทำเว็บด้วยเว็บไซต์สำเร็จรูป WordPress และเว็บที่ทำด้วยการเขียน Coding ทั้งหมด ซึ่งแต่ละแบบก็จะมีข้อดี-ข้อเสียที่แตกต่างกัน แต่หากให้เราชาวมิงแนะนำเราขอแนะนำว่าให้เลือกทำเว็บไซต์ระบบ WordPress จะดีกว่า เพราะไม่ต้องใช้ Coding เยอะ มีความยืดหยุ่นในการปรับแต่งมากกกว่า หรือถ้าจะใช้ Coding ก็สามารถจ้าง Programmer Out Source มาช่วยจัดการได้เช่นกัน
2.ความเชี่ยวชาญของคนที่ทำเว็บไซต์
การหาคนทำเว็บไซต์ที่มีความเชี่ยวชาญถือว่าเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม ควรเลือกคนทำเว็บไซต์ที่มีประสบการณ์การทำเว็บไซต์ มีผลงานการนำเว็บไซต์มาแสดงให้คุณดู เพื่อประกอบการพิจารณาว่าการทำเว็บไซต์ที่ผ่านมาของเขาเข้าตาหรือไม่เข้าตา
3.งบประมาณการทำเว็บไซต์
เรื่องของงบประมาณเป็นสิ่งที่พูดยากมาก เพราะไม่ว่าใคร ๆ ที่หาคนทำเว็บไซต์ย่อมคาดหวังที่จะได้เว็บไซต์ที่ดีอยู่แล้ว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องดูงบประมาณของคุณเองด้วยว่าไหวที่เท่าไหร่ ไม่ใช่ว่ามีงบ 15k แต่อยากได้เว็บไซต์แบบ Shopee, Lazada อันนี้ก็จะเกินไปนิดนึง
4.เว็บไซต์ที่จะทำรองรับการทำการตลาดออนไลน์หรือไม่
เว็บไซต์ก็เปรียบเหมือนร้านค้าต่อให้ทำสวยทำดีแค่ไหน แต่ถ้าไม่รองรับการทำการตลาดออนไลน์ก็เปล่าประโยชน์ เพราะใครหน้าไหนเล่าจะมาเจอร้านค้าของคุณ
ฉะนั้นแล้วควรเลือกระบบเว็บไซต์ที่สามารถรองรับการทำการตลาดออนไลน์ต่าง ๆ เช่น SEO, Google Ads ในอนาคตได้ด้วย
คลิกอ่านเพิ่มเติม : SEO คืออะไร
5.สิ่งที่คุณคาดหวังว่าจะได้จากการทำเว็บไซต์
เมื่อคุณจ้างงานใครสักคนความคาดหวังเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นปกติ ฉะนั้นแล้วเมื่อหาคนทำเว็บไซต์ได้แล้ว คุณควรทำบรีฟให้เสร็จเรียบร้อย ครบถ้วน สมบูรณ์ บอกสิ่งที่คุณอยากได้หรือสิ่งที่คุณคาดหวังให้ละเอียดชัดเจน เพราะจะช่วยให้คนที่ทำเว็บไซต์ทำงานได้ง่ายขึ้นกว่าการบรีฟงานลอย ๆ แบบไม่มีข้อมูลอะไรเลย
คลิกอ่านเพิ่มเติม : Landing Page คืออะไร ? สำคัญอย่างไร หน้าแลนดิ้งเพจที่ดี แบบที่ช่วยเพิ่มยอดขายได้ควรเป็นแบบไหนกันแน่ ?
เลือกทำเว็บไซต์แบบไหนดี ถึงจะเหมาะกับคุณที่สุด
ทุกวันนี้มีเว็บไซต์รูปแบบต่าง ๆ ให้เลือกเยอะม๊ากกกกก เดี๋ยวเราชาวมิงจะลองยกตัวอย่างรูปแบบเว็บไซต์ที่ได้รับความนิยมให้ได้รู้จักกัน เผื่อว่าคุณจะได้แนวทางที่ต้องการเมื่อหาคนทำเว็บไซต์หรือหาคนเขียนเว็บไซต์นั่นเอง
1.เว็บไซต์ Sale Page หน้าเดียว
เหมาะกับเว็บไซต์ที่ต้องการขายสินค้าแบบที่มีข้อมูลครบจบในหน้าเดียว ชนิดที่ว่าสามารถปิดการขายได้เลยทันที
2.เว็บไซต์ธุรกิจ หรือ เว็บไซต์องค์กร
เหมาะกับเว็บไซต์ที่ทำธุรกิจประเภทการให้บริการต่าง ๆ เช่น ธุรกิจขายของใช้ในโรงแรม ธุรกิจขายถังน้ำทรงแชมเปญ หรือว่าจะเป็นเว็บไซต์บริษัทองค์กรต่าง ๆ ก็ได้เช่นกัน
คลิกดูบริการ รับทำเว็บไซต์องค์กร จากพวกเราชาวมิง
3.เว็บไซต์ E-Commerce
เว็บไซต์ประเภทนี้เหมาะกับเว็บที่มีการซื้อ-ขายสินค้าผ่านทางเว็บไซต์ โดยเว็บไซต์ E-Commerce จะสามารถทำการซื้อ-ขาย ชำระเงินผ่านหน้าเว็บไซต์ได้เลยแบบรวดเร็ว
4.เว็บไซต์โปรแกรมระบบ
เว็บไซต์ประเภทนี้จะเป็นเว็บไซต์ที่มีการนำระบบต่าง ๆ เข้ามาใช้ร่วมกับธุรกิจ เช่น ทำเว็บไซต์ขายกระเบื้องหลังคาแล้วต้องมีการคำนวณพื้นที่การใช้หลังคา โดยจะมีการใช้ Coding หรือจ้างโปรแกรมเมอร์ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านมาช่วยเขียนเว็บไซต์ส่วนที่เป็นระบบให้
สิ่งที่ต้องระมัดระวังเมื่อหาคนทำเว็บไซต์ มีอะไรบ้าง
1.เลือกคนทำเว็บไซต์ที่เชื่อถือได้
การหาคนทำเว็บไซต์ที่มีฝีมือว่ายากแล้ว การหาคนทำเว็บไซต์ที่เชื่อถือได้นั้นยากกว่าหลายเท่า ! ที่เราชาวมิงบอกให้เลือกคนรับทำเว็บไซต์ WordPress หรือเว็บไซต์รูปแบบอื่น ๆ ที่เชื่อถือได้ก็เป็นเพราะว่า ราคาค่าทำเว็บไซต์นั้นค่อนข้างสูง ไหน ๆ จะเสียเงินทั้งทีก็ควรหาคนทำเว็บไซต์ที่เชื่อถือได้ จ่ายเงินให้เขาไปแล้วไม่โดนบิดโดนโกง
ทางที่ดีควรมีการติดต่อสื่อสาร Update รายงานสถานะการทำเว็บไซต์อย่างเป็นประจำ 2-3 วันครั้งก็ยังดี ไม่ใช่ว่านิ่งเงียบ นิ่งหายไปเลย แบบนี้ใช้ไม่ได้ ๆ
2.ควรเลือกระบบทำเว็บไซต์ที่รองรับการทำการตลาดออนไลน์
เว็บไซต์เปรียบเสมือนร้านค้า หากร้านค้าไม่มีระบบการจัดการที่ดีก็จะทำให้การค้าขายเป็นเรื่องที่ยากลำบากจริงมั้ยล่ะ ? ต่อให้เว็บสวยแบบอันดับ 1 ของโลกจน Guinness Book ยกย่องคุณว่าคือที่สุด แต่ถ้าเว็บไม่รองรับการทำการตลาดออนไลน์ เช่น การทำ SEO, Google Ads ฯลฯ แบบนี้ก็เปล่าประโยชน์ ใครหน้าไหนเล่าจะมาเจอร้านค้าของคุณ !
ฉะนั้นแล้วระบบเว็บไซต์ที่เลือกทำควรรองรับการทำการตลาดออนไลน์ในอนาคตด้วย ข้อนี้สำคัญม๊ากกกกก ถ้าจะให้ปรับแต่งแก้ไขง่าย สะดวก รวดเร็ว เราชาวมิงก็ขอแนะนำเป็นการสร้างเว็บไซต์ด้วยระบบ CMS ที่ชื่อว่า “WordPress” เพราะเรากล้าการันตรีเลยว่าใช้งานง่าย รองรับการทำ SEO และการทำการตลาดออนไลน์ทุกรูปแบบ บอกเลยว่าจึ้งมาก !
3.ระยะเวลาการทำเว็บไซต์ต้องมีความชัดเจน
ความรับผิดชอบเรื่องเวลาก็ถือว่าสำคัญ ไม่ควรมองข้าม ควรหาคนทำเว็บไซต์ที่มีกำหนดการให้คุณว่าจะทำอะไรให้คุณเมื่อไหร่บ้าง เช่น 1-7 วันแรกจะใช้เวลาในการออกแบบเว็บไซต์ วันที่ 8-10 ส่งดีไซน์ให้คุณดู ฯลฯ
การกำหนด Timeline จะทำให้คุณวางแผนได้ว่าจะเปิดตัวเว็บไซต์ช่วงไหนดี แล้วต้องทำอะไรต่อ ถ้าบริษัทรับทำเว็บไซต์เจ้าไหนหรือฟรีแลนซ์ท่านไหนตอบคุณไม่ได้ว่าใช้ระยะเวลาในการทำเว็บไซต์กี่วัน เว็บไซต์จะเรียบร้อยวันที่เท่าไหร่ บอกเลยว่าอย่าไปเสียเวลา ไปหาคนทำเว็บไซต์คนใหม่ที่เขามีความเป็นมืออาชีพมากกว่านี้จะดีกว่า
ทำเว็บไซต์ ต้องใช้เงินเท่าไหร่
ราคา รับทำเว็บไซต์ จากผู้รับทำเว็บไซต์แต่ละเจ้า จะมีราคาที่แตกต่างกันไป
หากคุณหาคนทำเว็บไซต์แบบฟรีแลนซ์ ราคารับทำเว็บไซต์ก็จะมีราคาถูกกว่าการจ้างบริษัทรับทำเว็บไซต์ แต่หากเลือกฟรีแลนซ์ผิดคน ก็ขอบอกเลยว่าชีวิตคุณเปลี่ยนไปแน่นอน กว่าระบบเว็บไซตจะเสร็จสมบูรณ์คงต้องคุยกันอีกยาว
แต่ถ้าหาคนทำเว็บไซต์แบบที่เป็นบริษัทรับจ้างทำเว็บไซต์โดยตรง แน่นอนว่าราคาจะสูงกว่า (อาจจะมากกว่าเล็กน้อย) หรือแพงแบบหลุดโลกไปเลย แต่หากเทียบกับคุณภาพจากบริษัทรับจ้างทำเว็บไซต์ ที่เขามีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านก็ขอบอกเลยว่าคุ้ม !
ไม่ว่าคุณจะหาคนทำเว็บไซต์แบบฟรีแลนซ์หรือแบบบริษัท ยังไงก็อย่าลืมพูดคุยตกลงเรื่องเรทราคา เงื่อนไขการดูและระยะเวลาการทำให้เรียบร้อยล่ะ จะได้เข้าใจตรงกันทั้ง 2 ฝ่าย
อ้อ ! ลืมแวะขายของ จะบอกว่าราคาเริ่มทำเว็บไซต์แบบ Sale Page หน้าเดียวของมิงเก็ตตาร์เริ่มต้นที่ 6,900 เท่านั้นนะ หากหาคนทำเว็บไซต์อยู่ สามารถคลิกดูราคาเริ่มต้นทำเว็บไซต์ประเภทต่าง ๆ ได้ที่นี่
ราคาเริ่มต้นทำเว็บไซต์มิงเก็ตตาร์
- เว็บไซต์หน้าเดียว เริ่มที่ 6,900 บาท
- เว็บไซต์ธุรกิจ หรือ เว็บไซต์องค์กร เริ่มที่ 9,999 บาท
- เว็บไซต์ E-Commerce เริ่มที่ 15,999 บาท
หาคนทำเว็บไซต์จ้างฟรีแลนซ์ หรือ จ้างบริษัทรับทำเว็บไซต์ แบบไหนดีกว่ากัน
หากคุณหาคนทำเว็บไซต์ คุณสามารถเลือกได้ 2 แบบว่าจะจ้างฟรีแลนซ์ฝีมือขั้นเทพ หรือจะจ้างบริษัทรับทำเว็บไซต์ที่มีความเชี่ยวชาญ แต่ไม่ว่าจะเลือกทางไหนบริษัททำมิงเก็ตตาร์อย่างเราก็ขอบอกเลยว่าดีทั้งคู่
เพียงแต่ว่าคุณต้องคุยบรีฟ คุยเงื่อนไข คุยรายละเอียดการทำเว็บไซต์กับผู้ทำให้ดี เพียงเท่านั้นนี้ก็ไม่มีปัญหาอะไรแล้ว
ยังไงเราชาวมิงจะลองเปรียบเทียบข้อดี-ข้อเสียของการจ้างฟรีแลนซ์และจ้างบริษัทรับทำเว็บไซต์ให้ได้อ่านก็ดีกว่า เผื่อจะเห็นภาพที่ชัดเจนมากขึ้น บอกเลยว่าเขียนขึ้นมาจากประสบการณ์ตรงทั้งในฐานะที่เคยทำงานเป็นฟรีแลนซ์ และทำงานอยู่ที่บริษัทรับทำเว็บไซต์มิงเก็ตตาร์ งานนี้ไม่มีบลัฟ ไม่มีลำเอียงแน่นอน
หาคนทำเว็บไซต์แบบฟรีแลนซ์
ข้อดี
- ราคาทำเว็บไซต์ไม่แพง ราคาถูกกว่าการจ้างแบบบริษัท
- พูดคุยรายละเอียดได้ง่าย เพราะคุยกับคนทำคนเดียว
- มีฟรีแลนซ์ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านให้เลือกใช้บริการเยอะ
ข้อเสีย
- หากเลือกฟรีแลนซ์ผิด เว็บไซต์ที่จะทำอาจจะไม่ได้ดั่งใจ
- ฟรีแลนซ์บางคนไม่เป๊ะเรื่อง Timeline การทำงาน
หาคนทำเว็บไซต์แบบบริษัทรับทำเว็บไซต์
ข้อดี
- มีทีมช่วยทำเว็บไซต์ เช่น ทีมรับบรีฟ ทีมออกแบบ ทีมขึ้นเว็บไซต์
- ได้งานครบตรงตามบรีฟที่ตกลงกันเอาไว้
- ระยะเวลาการทำเว็บไซต์เป๊ะตามที่ดีลกันเอาไว้
- มีบริษัทรับทำเว็บไซต์ให้เลือกเยอะมาก ๆ หลายเจ้าแต่ไม่หลายใจ
ข้อเสีย
- ค่าบริการอาจจะสูงกว่า แต่หากเทียบกับคุณภาพรับรองว่าคุ้ม
- ถ้าเลือกบริษัทผิด เว็บไซต์ที่จะทำอาจะเกิดปัญหาได้
วิธีเลือกบริษัทรับจ้างทำเว็บไซต์ที่ไหนดีที่สุด
1.บริษัทรับทำเว็บไซต์ที่เลือกต้องมีประสบการณ์
ควรหาบริษัทรับทำเว็บไซต์ที่มีประสบการณ์การทำเว็บไซต์ เพื่อให้มั่นใจว่าเมื่อคุณจ่ายเงินค่าทำเว็บไซต์ไปแล้ว สิ่งที่คุณคาดหวังกับสิ่งที่คุณจะได้รับนั้นสอดคล้องตรงกัน
2.สามารถให้คำแนะนำ หรือข้อเสนอแนะเพิ่มเติมกับคุณได้
บางครั้งในเวลาที่เราบรีฟงานคนรับจ้างทำเว็บไซต์ไป เราอาจจะวางโครงสร้างเว็บไซต์ (Website Structure) ได้ไม่ดีพอ หากบริษัทที่รับจ้างทำเว็บไซต์สามารถให้ข้อเสนอแนะนำหรือคำแนะนำเพิ่มเติมกับคุณได้ก็จะดีมาก ๆ อย่างน้อย ๆ ถึงเขาจะแนะนำมาแต่คุณต้องการยึดตามแบบของคุณก็ไม่เป็นอะไร เพราะนั่นหมายถึงการดูแลเอาใจใส่ลูกค้านั่นเอง
3.ระบบเว็บไซต์ที่ทำควรรองรับการทำการตลาดออนไลน์
เว็บไซต์ที่คุณจ้างทำมาควรรองรับการทำการตลาดออนไลน์ทุกช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นการทำ SEO การทำ SEM ผ่านช่องทางต่าง ๆ เพื่อให้ (ว่าที่) ลูกค้าของคุณได้เห็นร้านค้าของคุณ เพราะต่อให้เว็บไซต์สวยแค่ไหนแต่ถ้าไม่มีการทำการตลาดออนไลน์เพื่อให้คนเจอเว็บไซต์ของคุณ แบบนี้มีเว็บไซต์ไปไร้ประโยชน์อยู่ดี จริงมั้ยล่ะ ?
4.ราคาทำเว็บไซต์ต้องสมเหตุสมผล
ราคาการทำเว็บไซต์ต้องสอดคล้องกับสิ่งที่คุณจะได้รับ คุณอาจจะต้องลองมานั่งคิดพิจารณาเอาเองว่าถ้าจ่ายค่าทำเว็บไซต์ไป 30k เว็บไซต์ที่คุณจะได้รับนั้นคุ้มค่ากับราคาหรือไม่ แต่ส่วนใหญ่บอกเลยว่าคุ้มค่า เพราะเสียค่าทำเว็บแค่ครั้งเดียวเท่านั้น ก็สามารถใช้งานเว็บไซต์ได้อย่างยาว ๆ (ไม่รวมค่า Domain + Hosting ที่จะต้องเสียค่าบริการเป็นรายปี)
สามารถคลิกจด Domain + Hosting ได้ที่นี่
ปล. พวกเราชาวมิงก็ใช้บริการ Hosting + Domain ผ่าน HostAtom ค่ะ
5.มี Timeline รายละเอียดการทำเว็บไซต์ให้ดู
ไหน ๆ จะหาคนทำเว็บไซต์ทั้งทีก็ควรจ้างคนที่มีแผนงานซะหน่อยมั้ยล่ะ ? อย่างน้อย ๆ ผู้รับจ้างทำเว็บไซต์ต้องบอกได้ว่าเขาจะใช้ระยะเวลาการทำเว็บไซต์ประมาณกี่วัน กี่เดือน ถ้าหากมีเป็น Timeline พร้อมรายละเอียดการทำให้ดูได้ยิ่งดี เพราะคุณจะได้วางแผนขั้นตอนต่อไปได้ถูก
สุดท้ายนี้ไม่ว่าคุณจะตัดสินใจหาคนทำเว็บไซต์แบบฟรีแลนซ์ หรือแบบบริษัทรับทำเว็บไซต์ก็ตาม สิ่งที่สำคัญมาก ๆ คือ คุณควรรู้ความต้องการของตัวเอง ว่าอยากได้เว็บไซต์แบบไหน ต้องบรีฟให้ตรงประเด็น ยิ่งบรีฟละเอียดมากเท่าไหร่ คนที่รับทำเว็บไซต์จะสามารถทำออกมาได้ดีมากขึ้นเท่านั้น
มาถึงช่วงนี้เราชาวมิงก็ขอขายของสักหน่อยแล้วกัน เราเองก็เป็นบริษัทรับทำ WordPress ที่ทำมาแล้วมากกว่า 100 โปรเจคมีทั้งที่เปิดเผยได้และเปิดเผยไม่ได้ ถ้าคุณต้องการเว็บไซต์ที่สวยงามแถมยังรองรับการทำการตลาดออนไลน์ในระยะยาว สามารถเข้ามาพูดคุยปรึกษาหรือขอคำแนะนำกับเราได้แบบฟรี ๆ เราพร้อมให้คำแนะนำที่ดีที่สุดกับคุณเสมอ ไม่ว่าจะคุณจะตกลงจ้างเราหรือไม่ก็ตาม ยังไง ๆ ก็แวะมาคุยกันก่อนได้น้า รับรองได้ว่าคุยกับเราได้อะไรมากกว่าที่คุณคิดแน่นอน !