Web Hosting คืออะไร มีกี่ประเภท เลือกใช้บริการอย่างไรดีที่สุด

เว็บโฮสติ้ง Web Hosting คืออะไร มีกี่ประเภท

Hosting คืออะไร

สำหรับความหมาย Hosting คือ พื้นที่เก็บข้อมูลต่าง ๆ ที่ออนไลน์อยู่ในเว็บไซต์ของเรา โดยจะมีการเก็บข้อมูลบน Server ขนาดใหญ่ พื้นที่ Hosting จะมีหลายขนาดให้เลือก ขึ้นอยู่กับความต้องการของเราว่าต้องการพื้นที่ข้อมูล Web Hosting ขนาดไหน ซึ่งราคาก็จะแตกต่างกันไปด้วยตามเงื่อนไขของผู้ให้บริการ Hosting แต่ละเจ้า

เราลองไปข้อมูลเพิ่มเติมกันดีกว่าค่ะ ว่า Hosting มีกี่ประเภท และขอบอกเลยว่าในบทความนี้ พวกเรา Mingketar จะมาแนะนำวิธีเลือกผู้ให้บริการ Hosting ว่าควรเลือกอย่างไรดีให้ได้อ่านกัน

คลิกเลือกอ่านหัวข้อที่สนใจ ซ่อน

Hosting มีไว้เพื่ออะไร

หลัก ๆ แล้ว เรามี Hosting เพื่อเอาไว้เก็บข้อมูลต่าง ๆ ในเว็บไซต์ของเรา เช่น เก็บ Database, HTML, รูปภาพ, ระบบโปรแกรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ฯลฯ

Hosting มีหน้าที่อะไร

Hosting มีหน้าที่เป็นพื้นที่สำหรับเก็บข้อมูลต่าง ๆ หากเว็บไซต์ของเราไม่มี Hosting จะไม่สามารถ Online ได้

Web Hosting มีกี่ประเภท

ปัจจุบันสามารถแบ่ง Web Hosting ได้ทั้งหมด 5 ประเภท ดังนี้

1.Virtual Private Server Hosting

Virtual Private Server Hosting จะเปรียบเหมือนกับการให้เราได้เข้าไปเช่าบริการพื้นที่ Server แบบส่วนตัว สามารถเพิ่มโปรแกรม หรือ Application ที่ใช้งานบนเว็บไซต์ได้ รวมถึงยังรองรับคนเข้าเว็บไซต์ (Traffic) จำนวนมากได้ มีการแบ่ง Data Transfer และ Bandwidth เอาไว้อย่างชัดเจน

2.Shared Hosting

Shared Hosting จะเป็นพื้นที่เก็บข้อมูลที่มีการแชร์กับเว็บไซต์อื่น ๆ ร่วมด้วย มีการแบ่งพื้นที่ให้เช่า Hosting เหมาะกับเว็บไซต์ขนาดเล็กที่ไม่เน้นการใช้งานหนัก มีข้อดี คือ Shared Hosting ประเภทนี้ค่าบริการเช่าจะมีราคาถูก แต่จะไม่สามารถลง Application หรือโปรแกรมเพิ่มเติมได้

3.Reseller Hosting

Reseller Hosting เป็น Hosting ที่ออกแบบมาสำหรับผู้ให้บริการที่ต้องการทำเว็บไซต์สำเร็จรูปแล้วนำไปขายต่อ

4.Dedicated Server Hosting

Dedicated Server Hosting เป็น Hosting ที่เหมาะกับการใช้งานสำหรับองค์กร/บริษัท เพราะให้บริการ Server ให้กับเราแค่เพียงผู้เดียว โดยจะมีความเสถียรและมีความปลอดภัยสูงมาก ๆ

5.WordPress Hosting

WordPress Hosting เป็น Hosting ที่ออกแบบมาสำหรับเว็บไซต์ที่สร้างด้วยระบบ CMS “WordPress” โดยเฉพาะ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานเว็บไซต์ให้สูงขึ้น

ข้อดีของการใช้บริการ Hosting

ข้อดีของการใช้บริการ Hosting

  • Hosting เป็นพื้นที่สำหรับเก็บข้อมูลต่าง ๆ เพื่อให้เว็บไซต์ Online ได้
  • ผู้ให้บริการ Hosting จะตั้งค่าระบบ Hosting ให้พร้อมกับการใช้งาน ทำให้เราสามารถ Upload ข้อมูลต่าง ๆ ในเว็บไซต์ได้ทันที
  • การใช้บริการ Hosting จะมีผู้เชี่ยวชาญคอยให้การ Support
  • ไม่ต้องเสียเวลาทำ Server เก็บข้อมูลเอง
  • Web Hosting จากผู้ให้บริการแต่ละเจ้า จะมีการ Backup ข้อมูลให้เป็นประจำ
สิ่งที่ต้องนึกถึงก่อนตัดสินใจเลือกผู้ให้บริการ Hosting

สิ่งที่ต้องนึกถึงก่อนตัดสินใจเลือกผู้ให้บริการ Hosting

1.การ Support

ผู้ให้บริการ Hosting ที่ดี ควรมีบริการ Support ความช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมง เช่น หากเกิดปัญหา Hosting ล่มขึ้นมา ก็ควรที่จะติดต่อสอบถามข้อมูลได้ ไม่ใช่ว่าติดต่อได้แค่ในเวลาราชการเท่านั้น

2.Server

Server ต้องมีประสิทธิภาพ ไม่ล่มบ่อย มีความเสถียร มีการประมวลผลที่รวดเร็ว เพราะจะได้ไม่ต้องรอโหลดเว็บไซต์นานเกินความจำเป็น

3.Location

ที่ตั้งของ Server จำเป็นต้องอยู่ใน Data Center ที่มีการเชื่อมต่อ Internet ทั่วโลกตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงต้องมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลและควบคุม

การเลือกเว็บโฮสติ้ง (Web Hosting) ต้องเลือกอย่างไร

การเลือกเว็บโฮสติ้ง (Web Hosting) ต้องเลือกอย่างไร

1.คำนวณพื้นที่ Hosting ที่ต้องการใช้งาน

พื้นที่เก็บข้อมูล Hosting จะมีให้เลือกหลายขนาด ยิ่งที่ Hosting มีพื้นที่เก็บข้อมูลมากขนาดไหน ราคาค่าบริการจะสูงขึ้นตามไปด้วย ฉะนั้นแล้วต้องพิจารณาดี ๆ ว่าเว็บไซต์ของตัวเองเป็นแบบไหน

หากเป็นเว็บไซต์บริษัท/องค์กร หรือ เว็บไซต์ E-Commerce ขนาดเล็ก การเลือกใช้บริการเว็บ Hosting ที่มีความจุขั้นต่ำที่ 10 GB ก็ถือว่าเพียงพอแล้วค่ะ

คลิกอ่านเพิ่มเติม : สิ่งที่ต้องรู้ เมื่อทำเว็บไซต์บริษัท หรือเว็บไซต์องค์กร พร้อมแนะนำวิธีเลือกบริษัทรับทำ Website

2.เช็ค Data Transfer และ Bandwidth ให้ดี

ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักคำว่า Data Transfer และ Bandwidth เสียก่อน

  • Data Transfer คือ การรับ-ส่งข้อมูลภายในเว็บไซต์
  • Bandwidth คือ ความเร็วในการเชื่อมต่อเมื่อเกิดการรับ-ส่งข้อมูล

สาเหตุที่ Data Transfer และ Bandwidth เกี่ยวข้องกัน ก็เป็นเพราะว่า หากเว็บไซต์ของเรามีคนเข้าใช้งานเยอะ ๆ ในเวลาเดียวกัน นั่นหมายความว่า Bandwidth ของเราไม่เพียงพอ ทำให้รองรับการใช้งานไม่ได้

ลองนึกภาพเวลาที่เรากดบัตรคอนเสิร์ตก็ได้ค่ะ ที่พอถึงเวลากดปุ๊บ เว็บไซต์ขายบัตรก็ล่มปั๊บ (ใครที่เป็นติ่งเกาหลีจะเข้าใจดี 😭)

ฉะนั้นแล้วเวลาเลือก Hosting ก็อย่าลืมนึกถึงเรื่องนี้กันด้วยน้า เพราะมันสำคัญมาก ๆ

ตรวจสอบภาษาและระบบการให้บริการ Hosting

3.ตรวจสอบภาษาและระบบการให้บริการ Hosting

เพื่อให้ง่ายต่อการบริการจัดการ Hosting ควรตรวจสอบภาษาและระบบให้บริการ Hosting ดี ๆ ว่ามีภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษหรือไม่ เพราะหากเป็น Hosting ภาษาอื่น ๆ ขึ้นมา จะจัดการได้ยากกว่าค่ะ

4.ระบบการจัดการ Hosting ต้องใช้งานง่าย

ระบบการจัดการ Hosting ต้องมีรูปแบบการใช้งานที่ง่าย เช่น Plesk หรือ DirectAdmin 2 ระบบจัดการนี้พวกเราชาวมิงคิดว่ามีการใช้งานที่ Friendly ไม่ยุ่งยากดีค่ะ เลยอยากจะแนะนำจริง ๆ

5.บริการ Support หลังใช้บริการ Hosting

เรื่องของการ Support เป็นอะไรที่สำคัญมาก ๆ เพราะเวลาที่เว็บไซต์เราล่มขึ้นมาในยามฉุกเฉิน หากสามารถติดต่อผู้ให้บริการ Hosting ก็คงอุ่นใจไม่น้อย

ฉะนั้นแล้วก่อนตัดสินใจเลือกใช้บริการ Hosting เจ้าไหนก็ตาม อย่าเพิ่งเห็นว่าราคาเขาถูกแล้วรีบตัดสินใจค่ะ ให้ดูที่การ Support เป็นหลักเสียก่อน บริษัท Hosting ที่ดีควรให้บริการ Support 24 ชั่วโมงแบบไม่มีวันหยุด

ขอแอบกระซิบบอกว่ามี Hosting บางเจ้าที่ให้บริการแค่จันทร์-ศุกร์ และมีกำหนดเวลาที่สามารถติดต่อได้ด้วยนะคะ แหมมมมม.. ทำเป็นระบบข้าราชการเชียวค่ะ

สามารถคลิกจด Domain + Hosting ได้ที่นี่ 
ปล. พวกเราชาวมิงก็ใช้บริการ Hosting + Domain ผ่าน HostAtom ค่ะ

คลิกจด Domain คลิกจด Hosting คลิกซื้อ Theme Wordpress

6.ผู้ให้บริการ Hosting ต้องมีความน่าเชื่อถือ

ในการใช้บริการ Hosting ควรเลือกจากบริษัทที่น่าเชื่อถือเท่านั้น มีการ Support ที่ดี เพื่อให้มั่นใจว่าเว็บไซต์ของเราที่เก็บข้อมูลด้วยกับทางเขาจะมีความปลอดภัย

7.ราคา Hosting ต้องเหมาะสม

ทุกวันนี้มีโปรโมชันล่อตาล่อใจเกี่ยวกับการใช้บริการ Hosting มากมาย ผู้ให้บริการ Hosting ก็ราคาถูกมาก ๆ ในปีแรก แต่กลายเป็นว่าในปีถัดราคา Hosting แพงหูฉี่เลยค่ะ
ถ้าจะให้ดีควรเลือกผู้ให้บริการ Hosting ที่มีการกำหนดราคาแบบสมเหตุสมผลจะดีกว่า เพราะ Hosting ราคาถูกก็ไม่ได้การันตรีว่าจะมีประสิทธิภาพเสมอไป หากยอมจ่ายค่า ​​Hosting ในราคาที่สูงหน่อย แต่แลกมากับการ Support ที่ดี Server เก็บข้อมูลเสถียร แบบนี้.. ก็ถือว่าคุ้มค่ามาก ๆ

ค่า Hosting ราคาเท่าไหร่

ราคาค่าบริการ Web Hosting แต่ละเจ้าจะแตกต่างกัน และยังมีเรื่องของความจุพื้นที่เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย

อย่าง Hosting ที่พวกเราชาวมิงใช้บริการอยู่จริง ๆ จะมีชื่อว่า “HostAtom

ซึ่ง Package Hosting ที่เราใช้บริการจะเป็น Web Hosting สำหรับ WordPress มีให้เลือกด้วยกัน 3 Packages ดังนี้

WP-1
1,490 บาท/ปี
10 GB SSD Disk Space
Unlimited Data Transfer
Unlimited Domain Add-ons
100K Monthly visitor
Easy WordPress Installer
Free SSL (Let's Encrypt)
WP-2
2,490 บาท/ปี
20 GB SSD Disk Space
Unlimited Data Transfer
Unlimited Domain Add-ons
500K Monthly visitor
Easy WordPress Installer
Free SSL (Let's Encrypt)
WP-2
2,490 บาท/ปี
20 GB SSD Disk Space
Unlimited Data Transfer
Unlimited Domain Add-ons
500K Monthly visitor
Easy WordPress Installer
Free SSL (Let's Encrypt)

โดเมน กับ Hosting แตกต่างกันอย่างไร

โดเมน คือ ชื่อเว็บไซต์ของเรา

ส่วน Hosting คือ พื้นที่สำหรับเก็บข้อมูลต่าง ๆ ในเว็บไซต์ เช่น เก็บภาพ, HTML, Database ฯลฯ

คลิกอ่านเพิ่มเติม : โดเมน มีอะไรบ้าง มีกี่ประเภท

อยากทำเว็บไซต์ WordPress ควรมี Hosting เป็นของตัวเองหรือไม่

ถ้าให้พูดตรง ๆ แล้ว หากต้องการทำเว็บไซต์ WordPress คุณก็ควรมี Hosting เป็นของตัวเอง แม้ว่าบริการรับทำเว็บไซต์ WordPress จะมีโปรโมชันฟรี Hosting + Domain ให้

คลิกอ่านเพิ่มเติม : Subdomain คืออะไร มีประโยชน์อย่างไร ต่อการใช้งานในเว็บไซต์

แต่หากคุณเลิกใช้บริการเขาหรืออยู่จนครบกำหนดตามสัญญา แล้วไม่ต่ออายุ แน่นอนเลยว่าสุดท้ายคุณก็ต้องเสียค่า Hosting เองอยู่ดี แถมยังเพิ่มความยุ่งยากในการย้าย Hosting อีกด้วย

ทางที่ดีซื้อ Hosting เก็บข้อมูลของเว็บไซต์ตัวเองเอาไว้แต่แรกจะดีที่สุดค่ะ จะได้ไม่ต้องวุ่นวายย้ายข้อมูลไปมา ดีไม่ดีส่งผลต่อเว็บไซต์ที่ออนไลน์อยู่ด้วย

คลิกอ่านเพิ่มเติม : 10 สิ่งที่ต้องรู้หาก ต้องการทำเว็บไซต์ มีอะไรบ้าง รู้ก่อนไม่โดนหลอกแน่นอน

ใช้บริการ Hosting ที่ไหนดี

พูดแบบจริงใจไม่จิงโจ้ ผู้ให้บริการ ​​Hosting ที่พวกเราชาวมิงใช้อยู่ คือ HostAtom ค่ะ แถมเรายังแนะนำให้ลูกค้าที่จ้างเราทำเว็บไซต์ให้ใช้บริการเจ้านี้ด้วย สาเหตุก็เป็นเพราะว่า Hosting เจ้านี้ให้บริการ Support ที่ดีมาก ๆ ขนาดเว็บไซต์ลูกค้าเราเข้าไม่ได้ตอนตี 2 ผู้ให้บริการเจ้านี้ยังคอย Support แถมยังเป็นบริษัท Hosting ของไทยด้วย เรียกได้ว่าไม่ต้องกังวลเรื่องปัญหาการพูดคุยเลยค่ะ

คลิกอ่านเพิ่มเติม : 9 วิธีติดตั้ง WordPress บน Host จริง ต้องทำอย่างไร สอนจับมือทำ Step by Step

อันนี้เป็นภาพระบบหลังบ้านที่ยืนยันว่าพวกเราชาวมิงใช้บริการ Hosting จาก HostAtom จริง ๆ

Mingketar ใช้บริการ Hosting HostAtom

ในการทำเว็บไซต์จำเป็นต้องเลือกผู้ให้บริการ Hosting ที่เชื่อถือได้ และมีการ Support ตลอด 24 ชั่วโมง เพราะเวลาเว็บไซต์เกิดปัญหาขึ้นมา แน่นอนว่าคงไม่เลือกเวลาเกิด
หากเราใช้บริการ Web Hosting ที่สามารถติดต่อได้ตลอดเวลา แบบนี้จะทำให้เราอุ่นใจขึ้น เพราะหากเว็บไซต์เกิดปัญหาจะได้มีผู้เชี่ยวชาญมาช่วยดูแลโดยตรงค่ะ ช่วยให้เว็บไซต์กลับมาออนไลน์ได้อย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *