Keyword Density คืออะไร วิธีใช้งานให้เหมาะสมกับ SEO

Keyword Density คืออะไร

การทำ SEO ในปี 2025 Keyword Density ยังมีความสำคัญอยู่หรือไม่ ยังคงต้องให้ความสำคัญอยู่เหมือนเดิม อาจต้องให้ความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยซ้ำเพราะการทำเว็บไซต์ให้ติดหน้าแรกมีการแข่งขันกันอย่างดุเดือด คนมีเว็บไซต์ต้องทำทุกวิถีทางเพื่อให้เว็บตัวเองติดหน้าแรก ทั้งการโฆษณาเสียเงิน รวมถึงการติดหน้าแรกโดยธรรมชาติเห็นผลระยะยาวเรียกว่าการทำ seo ซึ่งมีหลายองค์ประกอบ และวันนี้เราจะโฟกัสไปที่ Keyword Density เพราะเชื่อว่าหลายคนมองข้าม

Keyword Density คืออะไร

Keyword Density คือ การกระจายคีย์เวิร์ดบนหน้าเว็บไซต์อย่างเหมาะสม กระบวนการเริ่มต้นคือ keyword research มีการค้นหาคีย์เวิร์ด วิเคราะห์คำที่กลุ่มเป้าหมายพิมพ์เมื่อต้องการค้นหา จากนั้นนำไปปรับแต่งเนื้อหาให้ตรงตามความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย

Keyword Density คือ

ความสำคัญของ Keyword Density

Keyword Density มีความสำคัญต่อการทำ SEO อย่างมาก Google มีกระบวนการทำงานที่แบ่งออกเป็น 2 กระบวนการดังต่อไปนี้

  1. Code Html : การมองผ่าน tags code โดย google จะมองว่าโครงสร้างเนื้อหาเกี่ยวกับอะไร tags code เป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้างใน Code Html ทำให้ google เข้าใจว่าเว็บเรามีเนื้อหาหรือหัวข้ออะไร การใช้ tags code ที่เหมาะสมจะเพิ่มความแม่นยำในการจัดอันดับได้ การปรับ keyword density ให้มีความเหมาะสมในบทความ google จะเข้าใจง่ายขึ้น แต่ถ้าใส่เยอะก็อาจมองว่าเป็นสแปมได้
  2. User Signals : หลังจากที่ google ทราบโครงสร้างเนื้อหาแล้ว บทความเกี่ยวกับอะไร รวมถึงมีประโยชน์ต่อผู้ใช้งานหรือไม่ ก็จะไปสู่กระบวนการนำบทความไปให้ User ทดสอบ โดยวัดจาก Ctr : ความน่าสนใจของหัวข้อบทความ Time on Page : จำนวนคนอยู่ในหน้าเว็บ นานไหม ถ้านานแสดงว่าเนื้อหาดีมีประโยชน์ ทั้งหมดนี้ google จะเข้าใจว่าเนื้อหาเกี่ยวกับอะไร สร้างประโยชน์ให้ user มากน้อยแค่ไหน เท่านี้ก็เพียงพอต่อการนำไปจัดอันดับบน search engine แล้ว
Mingketar

เครื่องมือเช็ค Keyword Density ที่ Ming แนะนำ

Keyword Density การปรับแบบมาตรฐานควรใส่ประมาณ 1-2% ของเนื้อหาโดยรวมหรือกระจายให้อ่านแบบธรรมชาติมากที่สุด เชื่อว่าการปรับและกระจายคีย์เวิร์ดไม่ยาก แต่สิ่งที่อยากมากกว่าคือการหา Keyword เครื่องมือ keyword density checker ที่อยากแนะนำเช่น

1.Google Keyword Planner

แม้ว่ามันจะถูกออกแบบมาสำหรับวางแผนแคมเปญ Google Ads แต่ถือได้ว่าเป็นแหล่งข้อมูลคีย์เวิร์ดยอดเยี่ยม หนึ่งในเครื่องมือที่ไม่ควรมองข้ามในการทำ SEO

2.Google Trend

เครื่องมือที่ช่วยค้นหา Keyword เช็คคีย์เวิร์ด ทำให้มองเห็นแนวโน้มความนิยมในช่วงเวลานั้นๆ เพียงแค่พิมพ์คีย์เวิร์ดที่สนใจลงไปในช่องค้นหา ตั้งค่าประเทศ หมวดหมู่ ช่วงเวลา สามารถดูกราฟที่เกี่ยวข้อง ข้อมูลที่เกี่ยวข้องได้ทั้งหมด แนวโน้มความนิยมของคีย์เวิร์ดตามช่วงเวลา เปรียบเทียบคีย์เวิร์ดหลายตัว ความนิยมตามภูมิภาค

3.Answer the public

เครื่องมือ เช็ค keyword ช่วยค้นหาวลีที่ผู้คนใช้ในการค้นหา ถือเป็นแหล่งรวมไอเดียของ creator แสดงผลลัพธ์ในรูปแบบของ my mapping วงกลม แถบสีที่บ่งบอกถึงความนิยม แถบสีเข้มบ่งบอก topic คนนิยมค้นหาเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้สามารถใช้งานฟรีได้วันละ 3 ครั้งต่อ 1 account

ตัวอย่างเว็บ WordPress ธุรกิจองค์กร
คลิกติดต่อ Mingketar ทำการตลาดออนไลน์

ดูแลเว็บไซต์ไม่เป็น ยุ่งยากปวดหัว | ให้มิงเก็ตตาร์ดูแล

การทำเว็บดูเหมือนจะไม่ใช่เรื่องยาก ยิ่งปัจจุบันมีตัวช่วยสำเร็จรูปอย่าง wordpress ยิ่งง่ายแต่ความยากคือการออกแบบเว็บให้สวย น่าใช้งานและที่ยากไปกว่านั้นคือการหา Keyword หรือการปรับ Keyword Density ให้เหมาะสม เพื่อให้ Google เข้าใจเนื้อหานำไปจัดอันดับเว็บไซต์ของเราให้อยู่ในอันดับต้นๆ ทั้งหมดนี้ ไม่ต้องทำเองเพราะ Mingketar เราคือผู้เชี่ยวชาญในการทำงานเว็บ + seo พร้อมดูแลคุณทุกขั้นตอน

Mingketar รับทำ WordPress + รับทำ SEO ครบและจบในที่เดียว ให้ความสำคัญตั้งแต่การวางโครงสร้างของเว็บที่ถูกหลัก ออกแบบเว็บให้สวย ใช้งานง่าย ดึงดูดกลุ่มเป้าหมายช่วย ค้นหาคีย์เวิร์ดที่ใช่เหมาะสมกับธุรกิจของคุณ เราวิเคราะห์วางแผนการทำงานอย่างละเอียดทุกขั้นตอนโดยทีมงานมืออาชีพมาประสบการณ์ สร้างเว็บให้ตั้งแต่ต้นจนจบ ระยะเวลาเพียง 15-30 วัน แบ่งชำระได้ให้บริการในราคาไม่แพง

อ่านบทความที่น่าสนใจ

MINGKETAR SERVICE

สร้างเว็บไซต์ให้ถูกใจลูกค้า และ Google ไม่ว่าจะธุรกิจไหน ๆ ก็ติดหน้า 1 ของ Google ได้ เซฟงบโฆษณาได้หลายเท่าตัว ธุรกิจเติบโตระยะยาวแบบมั่นคง