Google เป็นแหล่งข้อมูลมหาศาลมีข้อมูลทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณอยากรู้ เพียงพิมพ์ Keyword หรือกลุ่มคำที่ต้องการหา ข้อมูลที่อยากรู้ก็จะปรากฏขึ้นมาทันที คุณสามารถคลิกเข้าไปยังเว็บไซต์เพื่อศึกษาหาข้อมูลหรือซื้อสินค้าที่ต้องการได้ สำหรับคนที่ทำธุรกิจการมีเว็บไซต์เป็นของตัวเองช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือ ลูกค้าสามารถสั่งซื้อสินค้าผ่านเว็บไซต์ได้ง่ายๆ อย่างไรก็ตาม การมีเว็บไซต์ก็ใช่ว่าจะประสบความสำเร็จต้องทำให้เว็บน่าสนใจดึงดูดลูกค้ากลุ่มเป้าหมายให้เข้าถึงเว็บไซต์ให้ได้มากที่สุด โดยทำให้เว็บไซต์ติดหน้าแรกในการค้นหา ไม่ใช่แค่การออกแบบเว็บไซต์ให้สวยงามแต่ต้องพึ่งพา SEO หรือการทำบทความ SEO ที่มีคุณภาพด้วย
บทความ SEO คืออะไร
บทความ seo คือ การเขียนบทความโดยมีเป้าหมายเพื่อทำ SEO (Search Engine Optimization) มีการแทรกคีย์เวิร์ดให้อยู่ในบทความและการวางโครงสร้างให้เหมาะสม ถูกหลัก บทความจะต้องถูกปรับแต่งให้สอดคล้องกับ search engine algorithm นอกจากนั้นยังต้องเขียนบทความให้เป็นธรรมชาติ ดูน่าสนใจ เนื้อหาที่มีประโยชน์เป็นมิตรต่อการเก็บข้อมูลของ Google bot ด้วย การเขียนบทความ seo ช่วยดันให้เว็บไซต์ติดอันดับการค้นหาบน Google ส่งผลทำให้ Traffic หรือยอดผู้เข้าชมเว็บไซต์มีมากขึ้น ช่วยเพิ่มโอกาสในการขายสินค้าหรือบริการต่างๆ ได้เป็นอย่างดี
ก่อนจะรู้วิธีการเขียน บทความ SEO ควรรู้อะไรบ้าง
1. ต้องมีคีย์เวิร์ดทุกบทความ
เขียนบทความ seo คีย์เวิร์ดเป็นวลีสำคัญ หรือ คำสำคัญ ที่เราต้องการให้คนค้นหาเจอด้วยวลีนี้ อาจเขียนในสิ่งที่ต้องการนำเสนอ เช่น ธุรกิจที่ให้บริการสร้างเว็บไซต์ keyword ที่เลือกใช้คือ “การสร้างเว็บไซต์” หรือคิดในมุมมองของผู้ใช้ เช่น ธุรกิจขายผลิตภัณฑ์ดูแลผิว keyword คือ “การดูแลผิว” เป็นต้น นอกจากนั้นยังสามารถใช้เครื่องมือ Keyword Research Tool เข้ามาช่วยได้
2. ใส่คีย์เวิร์ดเพื่อให้ Search เจอง่าย
เมื่อได้คีย์เวิร์ดที่ต้องการแล้ว ต้องใส่คีย์เวิร์ดลงไปในบทความเพื่อให้ search เจอได้ง่าย Google จะให้ความสำคัญกับเนื้อหาในแต่ละส่วนไม่เท่ากัน 5 ตำแหน่งสำคัญที่ต้องมีคีย์เวิร์ดได้แก่ Title หรือชื่อบทความ ชื่อลิงค์ของบทความ Description หรือคำอธิบาย Heading หรือหัวข้อต่างๆ และชื่อภาพหรือ Alt Text ของภาพ
3. ปริมาณและการกระจายตัวเป็นธรรมชาติ
การใส่คีย์เวิร์ดลงไปในบทความ จะต้องมีปริมาณและการกระจายตัวอย่างเป็นธรรมชาติเพื่อไม่ให้ Google มองว่าเราพยายามใส่มากเกินไปแนะนำ Keyword density หรือสัดส่วนของคีย์เวิร์ดไม่ให้หนาแน่นเกินไป เมื่อเทียบกับ Text ไม่เกิน 2.5% วิธีดู Keyword density สามารถใช้ SEO ปลั๊กอิน Yoast SEO ตรวจสอบได้
4. บทความคุณภาพคือหัวใจของ SEO
Search Engine ต้องการนำเสนอ Content ที่มีคุณภาพให้กับผู้ใช้ ดังนั้น บทความของคุณจะต้องมีคุณภาพ โดยวัดจาก 3 ปัจจัยพื้นฐานคือ ความยาวของบทความประมาณขึ้นอยู่กับเนื้อหาของบทความ ไม่ให้มีน้ำหรือเนื้อมากเกินไป ต้องไม่ Copy และยอด Engagement บนโซเชียลมีเดีย ถ้าบทความได้รับการแชร์เยอะๆ ก็มีผลทำให้ SEO สูงขึ้นด้วย
5. อัพเดทคอนเท้นต์อย่างสม่ำเสมอ
ไม่ว่าบทความของคุณจะดีหรือมีคุณภาพมากแค่ไหน แต่ถ้าขาดความสม่ำเสมอหรือไม่ค่อยอัพเดท Content ก็เปล่าประโยชน์ ในสายตาของ Search Engine คอนเท้นต์ที่ลงเว็บอย่างสม่ำเสมอหมายถึงเว็บไซต์ที่ได้รับการดูแลเป็นอย่างดีเป็นเว็บไซต์ที่มีการเติบโตอยู่เรื่อยๆ
6. ไม่ใช่ทุกคนจะเขียนบทความ SEO ได้ดี
หากคุณเป็นเจ้าของธุรกิจขายสินค้าหรือให้บริการที่มีเว็บไซต์เป็นของตัวเอง คุณเข้าใจ Concept ของบทความ seo เป็นอย่างดีแต่คุณไม่ใช่นักเขียนมืออาชีพ คุณสามารถบรีฟงานแล้วไปจ้าง ผู้ให้บริการรับเขียนบทความSEO หรือนักเขียนบทความ SEO มืออาชีพแทนได้ บทความจะมีความสดใหม่และเป็นธรรมชาติมากกว่า อีกทั้งยังไม่ต้องมาเสียเวลานั่งคิดบทความเองด้วยเอาเวลาไปทำอย่างอื่นได้เยอะเลย
บทความทั่วไป จะแตกต่างจากการเขียนบทความ SEO อย่างไร
บทความธรรมดาเป็นการเขียนบทความเพื่อวัตถุประสงค์บางอย่าง เช่น ต้องการให้ข้อมูล ต้องการรีวิวสินค้าบริการ สร้างแรงบันดาลใจ เขียนให้คนรู้จักแบรนด์ เป็นต้น การเขียนบทความธรรมดาเป็นส่วนของการทำแบรนด์ Communication เรามักพบเห็นกันทั่วไปตามเว็บไซต์หรือสื่อโซเชียลมีเดียต่างๆ เป็นสิ่งที่แบรนด์ต้องการจะสื่อสารกับผู้อ่านเป็นหลักแต่บทความ SEO เป็นการทำ Content Marketing เพื่อให้มีโอกาสถูกค้นหาเจอบน Google และเพิ่ม Traffic ให้กับเว็บไซต์ ไม่ใช่แค่การตอบสนองผู้อ่านเท่านั้นแต่ยังต้องตอบโจทย์ Google bot ด้วย
บทความ SEO ที่ดีควรเป็นอย่างไร
บทความ SEO ที่ดีจะต้องเป็นบทความที่เขียนขึ้นมาใหม่ สดใหม่ Unique 100% ไม่ได้คัดลอกเนื้อหาของผู้อื่นมา มีความยาวที่เหมาะสมหรือประมาณ 500 คำขึ้นไปและจะต้องมีการลงเนื้อหาอัพเดทคอนเท้นต์อย่างสม่ำเสมอ
หลักการเขียน Content SEO หรือ บทความ SEO มีอะไรบ้าง
1. ใส่คีย์เวิร์ดที่เหมาะสมทุกบทความ
การเขียนบทความ seo การหา keyword หรือเลือกคีย์เวิร์ดมาใช้มี 3 ปัจจัยด้วยกันที่ต้องนำมาพิจารณา ได้แก่ Search Volume หรือปริมาณการค้นหาคำนั้นๆ ในแต่ละเดือน, คีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ, คีย์เวิร์ดที่มีคนใช้งานจริง แม้จะเป็นการพิมพ์ด้วยคำที่ผิดแต่มีปริมาณการค้นหามาก
2. กระจายคีย์เวิร์ดในตำแหน่งสำคัญ
เมื่อเลือกคีย์เวิร์ดที่จะนำมาใส่ในบทความได้แล้ว ต้องวางคีย์เวิร์ดในตำแหน่งสำคัญต่างๆ ได้แก่ Titel, Description, URL, Headings, ชื่อภาพ และ Alt Text ของภาพ และอย่าลืมว่า Keyword density ไม่ควรเกิน 2.5% โดย keyword density คือ สัดส่วนของคีย์เวิร์ดเมื่อเทียบกับปริมาณ Text ทั้งหมด
3. URL ต้องเข้าใจง่ายและมี keyword
การเขียนบทความ SEO ให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี URL จะต้องเข้าใจง่ายและมี Keyword นั้นอยู่ด้วย สำหรับคีย์เวิร์ดที่เป็นภาษาไทยแนะนำให้ใส่ URL เป็นคีย์เวิร์ดภาษาอังกฤษ ถ้าเป็น URL ภาษาไทย ข้อเสียก็คือเวลากดแชร์ URL จะมีความยาวทำให้ดูเหมือนเป็นลิงค์สแปมทำให้คนไม่อยากกดอ่าน
4. เช็คคีย์เวิร์ดกระจายทั่วบทความ
คีย์เวิร์ดจะต้องถูกกระจายอยู่ทั่วบทความ วิธีการเช็คง่ายๆ คุณสามารถกด Control + F ค้นหาได้ เพื่อตรวจสอบว่าคุณใส่คีย์เวิร์ดลงไปจุดไหนบ้าง มีอยู่ครบทุกตำแหน่งไหม หรืออาจใช้ปลั๊กอิน Yoast SEO ในการตรวจสอบการกระจาย, keyword density, ความยาวของ Title, Description รวมไปถึงเกณฑ์อื่นๆ ที่เป็นการทำ On-Page SEO
5. ให้ความสำคัญกับ Heading Tag
Heading Tag หรือ HTML Tag เป็นตัวกำหนดหัวข้อต่างๆ ของหน้าเพจ มีตั้งแต่ H1-H6 โดยเรียงลำดับความสำคัญจาก H1 H2 H3 H4… จะต้องไม่เรียงข้าม เช่น H2 หัวข้อย่อยเป็น H4 แบบนี้ “ผิด” ที่ถูกต้องคือ H2 ตามด้วย H3 เป็นต้น อย่าลืมว่าการเขียนบทความ seo จะต้องเป็นธรรมชาติที่สุด ดังนั้น ไม่จำเป็นต้องแทรกคีย์เวิร์ดในทุกๆ Heading ก็ได้
6. ใส่ชื่อภาพ และ Alt Text
ในส่วนนี้หลายคนมองมักข้ามความจริงสำคัญมากๆ การใส่ภาพประกอบในบทความช่วยดันให้การทำ SEO ของคุณมีประสิทธิภาพแต่ต้องไม่ลืมตั้งชื่อภาพหรือใส่ Alt Text ของภาพเป็นเหมือนคำอธิบายภาพนั้นๆ สามารถแทรกคีย์เวิร์ดเข้าไปในรูปหรือเป็นคำค้นหาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องและได้รับความนิยมเพื่อให้ติด Search บน Google Image
7. เน้นเขียนเฉพาะเนื้อหาที่มีคุณภาพ
วิธีเขียนseo ให้ได้ผลดีต้อง เน้นเขียนเนื้อหาที่มีคุณภาพเป็นบทความสดใหม่ไม่คัดลอกผลงานคนอื่น บทความมีความยาว 500 คำขึ้นไป และอย่างที่บอกว่าต้องมีการอัพเดทหรือลงบทความ seo ต่อเนื่องสม่ำเสมอ เพิ่มปุ่มหรือติดตั้งปลั๊กอินสำหรับแชร์ลงบนโซเชียลเพื่อเพิ่ม engagement ให้กับบทความได้
8. ใช้ AI ในการค้นหาไอเดียแปลกใหม่
คุณสามารถนำ AI เข้ามาช่วยในการค้นหาไอเดียใหม่ๆ ได้เพื่อให้บทความสดใหม่ ไม่ซ้ำใครแต่ไม่แนะนำให้ใช้ AI เขียนบทความเพราะบทความของคุณอาจมีภาษาต่างดาวหรืออ่านไม่ได้ใจความทำให้ผู้อ่านได้รับประสบการณ์แย่ๆ บทความของคุณอาจไม่ผ่านเงื่อนไขของ Google ได้
ทั้งหมดนี้คือแนวทางในการเขียนบทความ seo ทุกคนคงรู้แล้วใช่ไหมว่าบทความ seo หรือ ContentSEO คืออะไร ก่อนเขียนบทความต้องรู้อะไรบ้าง หวังว่าวิธีเขียนบทความ seo เทคนิคดีๆ เหล่านี้จะมีประโยชน์โดยเฉพาะคนทำเว็บไซต์หรือคนมีธุรกิจเป็นของตัวเอง ไม่เว้นแม้แต่ธุรกิจเล็กๆ ก็ควรทำ SEO ถ้าเว็บไซต์ของคุณติดอันดับการค้นหา มีคนเข้าเว็บเยอะธุรกิจของคุณก็อาจประสบความสำเร็จได้ง่ายๆ